วันพุธที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

นิราศภูเขาทอง



นิราศภูเขาทอง






นิราศภูเขาทองเป็นวรรณคดีประเภทนิราศ ได้รับการยกย่องว่าเป็นนิราศเรื่องที่ดีที่สุดของสุนทรภู่ (พ.ศ. 2329 - 2398) ท่านแต่งนิราศเรื่องนี้จากการเดินทางไปนมัสการเจดีย์ภูเขาทอง ที่กรุงเก่า (จังหวัดพระนครศรีอยุธยาในปัจจุบัน) เมื่อเดือนสิบเอ็ด ปีชวด (พ.ศ. 2371) ขณะบวชเป็นพระภิกษุ  แบบทอสอบหลังเรียนนิราศภูเขาทอง 
ลักษณะคำประพันธ์
            นิราศภูเขาทองแต่งด้วยกลอนนิราศ มีความคล้ายคลึงกับโคลงสุภาพ แต่เริ่มด้วย              วรรครับ  จบด้วยวรรคส่งลงท้ายด้วย คำว่า เอย มีความยาวเพียง 89 คำกลอนเท่านั้น แต่มีความไพเราะ และเรียบง่าย ตามแบบฉบับของสุนทรภู่ ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย บรรยายความรู้สึกขณะเดียวกันก็เล่าถึงสภาพของเส้นทางที่กำลังเดินทางไปด้วย ท่านมักจะเปรียบเทียบชีวิตและโชคชะตาของตนกับธรรมชาติรอบข้างที่ตนได้เดินทางผ่านไป มีหลายบทที่เป็นที่รู้จักและท่องจำกันได้...
การเดินทางในนิราศ
สุนทรภู่ล่องเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาไปกับลูกชายชื่อหนูพัด ผ่านวัดบะโคนปัก บางยี่ขัน ถึงบางพลัด ผ่านตลาดแก้วตลาดขวัญในเขตจังหวัดนนทบุรี จากนั้นก็ผ่านเกาะเกร็ด ซึ่งเป็นย่านชาวมอญ เข้าสู่จังหวัดปทุมธานี หรือเมืองสามโคก แล้วเข้าเขตอยุธยา จอดเรือที่ท่าวัดพระเมรุ ค้างคืนในเรือ มีโจรแอบจะมาขโมยของในเรือ แต่ไหวตัวทัน รุ่งเช้าเป็นวันพระ ลงจากเรือเดินทางไปที่เจดีย์ภูเขาทอง ซึ่งเป็นเจดีย์ร้าง เก็บพระบรมธาตุมาไว้ในขวดแก้วตั้งใจจะนำไปนมัสการที่กรุงเทพฯ แต่เมื่อตื่นมาก็ไม่พบพระธาตุ จึงได้เดินทางกลับ
คุณค่าทางด้านวรรณศิลป์
คุณค่าทางวรรณศิลป์ในกลอนนิราศภูเขาทอง มีการเลือกใช้คำดีเด่นต่างๆ ดังนี้
1.      สัมผัสสระ คือ คำที่ใช้สระตัวเดียวกัน
2.      สัมผัสอักษร คือ คำที่มีอักษรคล้องจองกัน
3.      การซ้ำเสียง คือ การสัมผัสอักษรอย่างหนึ่ง นับเป็นการเล่นคำที่ทำให้เกิด เสียงไพเราะ การซ้ำเสียงจะต้องเลือกคำที่ให้จินตภาพแก่ผู้อ่านอย่างแจ่มชัดด้วย
4.      การใช้กวีโวหาร คือ นิราศภูเขาทองมีภาพพจน์ลักษณะต่างๆ ที่กวีเลือกใช้ ทำให้ผู้อ่านได้เข้าถึงความคิด ความรู้สึกของกวี
5.      ภาพพจน์อุปมา คือโวหารที่เปรียบเทียบของสองสิ่งว่าเหมือนกัน มักใช้คำว่า เหมือน คล้าย ดุจ ดูราว ราวกับ
6.      ภาพพจน์กล่าวเกินจริง คือ การที่กวีอาจกล่าวมากหรือน้อยกว่าความเป็นจริง เพื่อสื่อให้เกิดความเข้าใจและมองเห็นภาพในความคิดคำนึงได้ดีขึ้น
7.      การเลียนเสียง คือ กวีทำให้เสียงที่ได้ยินมาบรรยายให้เกิด มโนภาพและความไพเราะน่าฟังยิ่งขึ้น
8.      การเล่นคำ คือ การใช้ถ้อยคำคำเดียวในความหมายต่างกันเพื่อให้ การพรรณนาไพเราะน่าอ่าน และมีความลึกซึ้งยิ่งขึ้น

แบบทดสอบหลังเรียน



วันพฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ใบความรู้เรื่องคำนาม



ใบความรู้ เรื่องคำนาม



                คำนาม   หมายถึง  คำที่ใช้เรียกชื่อ  คน  สัตว์  พืช  สิ่งของ  สถานที่  สภาพ  อาการ  ลักษณะ  ทั้งที่เป็นสิ่งมีชีวิต  หรือสิ่งไม่มีชีวิต  ทั้งที่เป็นรูปธรรม  และนามธรรม  เช่นคำว่า  คน   ปลา  ตะกร้า   ไก่  ประเทศไทย  จังหวัดพิจิตร  การออกกำลังกาย  การศึกษา  ความดี  ความงาม  กอไผ่  กรรมกร  ฝูง  ตัว  เป็นต้น  
ชนิดของคำนาม

ชนิดของคำนามแบ่งได้ 5 ชนิด 
1. คำนามสามัญ หรือ สามานยนาม คือ คำนามที่ใช้เรียกชื่อทั่ว ๆ ไปของคน สัตว์ สิ่งของ เช่น นักเรียน ปลา ยางลบ ดินสอ ฯลฯ

2. คำชื่อเฉพาะ หรือ วิสามานยนาม คือ คำนามที่ใช้เรียกชื่อเฉพาะของคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ เช่น พระอภัยมณี สุนทรภู่ โรงเรียนจรรยาอิสลามฯลฯ

3. คำนามบอกลักษณะ หรือ ลักษณะนาม คือ คำนามที่แสดงลักษณะของนาม เช่น ไข่เป็นฟอง น้ำเป็นแก้ว ปลาตะเพียนเป็นตัว นักเรียนเป็นคณะ ฯลฯ

4. คำนามรวมหมู่ หรือ สมุหนาม คือ คำนามที่ใช้เรียกชื่อหมู่ กอง หรือคำนามที่อยู่รวมกันเป็นหมู่ เช่น กองทหาร ฝูงกวาง คณะนักเรียน พรรคการเมือง ฯลฯ

5. คำนามธรรม หรือ อาการนาม คือ คำนามที่เป็นชื่อกริยาอาการ  เป็นสิ่งที่เป็นนามธรรม  ไม่มีรูปร่าง  มักมีคำว่า  "การ"  และ  "ความ"  นำหน้า  เช่น  การกิน  การเดิน  การพูด  การอ่าน  การเขียน ความรัก  ความดี  ความคิด  ความฝัน  เป็นต้น




 


                        

 

นิราศภูเขาทอง

นิราศภูเขาทอง นิราศภูเขาทองเป็น วรรณคดี ประเภท นิราศ   ได้รับการยกย่องว่าเป็นนิราศเรื่องที่ดีที่สุดของ สุนทรภู่  ( พ.ศ. 23...